การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ใครเป็นคนริเริ่ม ถูกนำมาใช้เมื่อไหร่?
การวิจัยและพัฒนาฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดเริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่มีบทบาทสำคัญ เช่น
ดร. ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด บราวน์-ซีคาร์ด (Dr. Charles-Édouard Brown-Séquard) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการทดลองฉีดสารสกัดจากอัณฑะของสัตว์เพื่อศึกษาผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์
ประโยชน์และความสำคัญของฮอร์โมนเพศชาย
ฮอร์โมนเพศชายมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและรักษาลักษณะทางกายภาพของผู้ชาย เช่น การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ การพัฒนาลักษณะทางเพศ และการควบคุมอารมณ์ การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายช่วยให้ผู้ที่มีภาวะขาดฮอร์โมนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- ประโยชน์ของฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิงข้ามเพศ: งานวิจัยหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายช่วยให้ผู้หญิงข้ามเพศมีลักษณะทางกายภาพที่ตรงกับเพศที่ต้องการและช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
- ประโยชน์ในการทำ IVF: การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายช่วยเพิ่มความสามารถในการสืบพันธุ์และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการทำ IVF
- การสร้างกล้ามเนื้อ: งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายช่วยให้การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
ระเบียบวิธีวิจัย (Methodology)
การออกแบบการวิจัย: การวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาและเชิงวิเคราะห์ โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ เช่น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ หนังสือ และรายงานวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง: การวิจัยนี้เน้นการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มผู้ที่มีการใช้ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดทั้งในผู้ชายและผู้หญิงข้ามเพศ รวมถึงกลุ่มผู้ที่ใช้ฮอร์โมนเพศชายในการทำ IVF และการสร้างกล้ามเนื้อ
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล: การเก็บข้อมูลจะใช้วิธีการศึกษาเอกสารและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง
การวิเคราะห์ข้อมูล: ข้อมูลที่ได้จะถูกวิเคราะห์ด้วยวิธีการเชิงพรรณนาและเชิงสถิติ เพื่อสรุปผลและตีความผลการวิจัย
ผลการวิจัย (Results)
การนำเสนอข้อมูลและผลลัพธ์ที่ได้จากการวิจัย
- การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายควรทำเมื่อไหร่, เหมาะกับใคร, ประโยชน์ในหญิงข้ามเพศ, ปริมาณที่ควรใช้และความถี่, ผลต่ออารมณ์
- ผลการวิจัยจะแสดงในรูปแบบกราฟ ตาราง หรือข้อความ เพื่อให้เห็นภาพรวมและข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจน
อภิปรายผล (Discussion)
การตีความผลการวิจัย:
- ประเภทของฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดและความแตกต่าง
- วิธีใช้ที่เหมาะสม
- ประโยชน์กับการทำ IVF
- การสร้างกล้ามเนื้อ
- กระบวนการที่เกิดขึ้นหลังฉีด
สรุป (Conclusion)
- ย้ำประเด็นสำคัญและผลลัพธ์ที่ได้
- ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ: แนะนำวิธีการใช้งานหรือการศึกษาต่อในอนาคต
บรรณานุกรม (References)
การอ้างอิงงานวิจัยและแหล่งข้อมูลต่างๆ:
- ให้ลิงค์และข้อมูลอ้างอิงที่เชื่อถือได้
ประวัติความเป็นมาของการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายแบบฉีด
การค้นพบและพัฒนาฮอร์โมนเพศชาย
ฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1935 โดยทีมวิจัยที่นำโดย ดร. แอดอล์ฟ บูทานันด์ (Dr. Adolf Butenandt) และ ดร. เลโอพอลด์ รูซิคา (Dr. Leopold Ruzicka) นักเคมีที่ได้รับรางวัลโนเบลจากการวิจัยเกี่ยวกับสเตียรอยด์ฮอร์โมน การค้นพบนี้เกิดขึ้นจากการศึกษาสารสกัดจากอัณฑะของสัตว์ และนำไปสู่การสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชายในห้องปฏิบัติการ
ผู้ริเริ่มและการพัฒนา
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ดร. ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด บราวน์-ซีคาร์ด (Dr. Charles-Édouard Brown-Séquard) นักสรีรวิทยาชาวฝรั่งเศส-อังกฤษ ได้เริ่มการทดลองฉีดสารสกัดจากอัณฑะของสัตว์เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เพื่อศึกษาผลกระทบทางสรีรวิทยา การทดลองของบราวน์-ซีคาร์ดเป็นจุดเริ่มต้นของการวิจัยฮอร์โมนเพศชาย แม้ว่าผลลัพธ์จะยังไม่ชัดเจนในตอนนั้น
การสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชาย
ในปี ค.ศ. 1935 ทีมวิจัยจากประเทศเยอรมนี นำโดย ดร. แอดอล์ฟ บูทานันด์ (Dr. Adolf Butenandt) และทีมวิจัยจากสวิตเซอร์แลนด์ นำโดย ดร. เลโอพอลด์ รูซิคา (Dr. Leopold Ruzicka) ได้ทำการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในห้องปฏิบัติการเป็นครั้งแรก การสังเคราะห์นี้ช่วยให้สามารถผลิตฮอร์โมนเพศชายในปริมาณมากได้ และเปิดโอกาสให้มีการศึกษาและพัฒนาการใช้ฮอร์โมนเพศชายในทางการแพทย์
ดร. แอดอล์ฟ บูทานันด์ (Dr. Adolf Butenandt): แอดอล์ฟ บูทานันด์ เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1903 ในเมืองเบรเมน ประเทศเยอรมนี บูทานันด์ศึกษาวิชาเคมีที่มหาวิทยาลัยมาร์บวร์ก และได้รับปริญญาเอกในปี ค.ศ. 1927 งานวิจัยของบูทานันด์เน้นการศึกษาเกี่ยวกับสเตียรอยด์ฮอร์โมนและวิตามิน ในปี ค.ศ. 1939 บูทานันด์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีร่วมกับ ดร. เลโอพอลด์ รูซิคา จากการวิจัยเกี่ยวกับสเตียรอยด์ฮอร์โมน
ดร. เลโอพอลด์ รูซิคา (Dr. Leopold Ruzicka): เลโอพอลด์ รูซิคา เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1887 ในเมือง Vukovar ประเทศโครเอเชีย รูซิคาศึกษาวิชาเคมีที่มหาวิทยาลัย Technische Hochschule ในกรุงซูริค สวิตเซอร์แลนด์ และได้รับปริญญาเอกในปี ค.ศ. 1910 งานวิจัยของรูซิคามุ่งเน้นไปที่การศึกษาเกี่ยวกับสารเคมีจากธรรมชาติและการสังเคราะห์สารอินทรีย์ที่ซับซ้อน ในปี ค.ศ. 1939 รูซิคาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีร่วมกับ ดร. แอดอล์ฟ บูทานันด์
ทีมวิจัยและองค์กรที่มีส่วนร่วม
ทีมวิจัยที่มีส่วนร่วมในการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์และนักเคมีหลายคนจากสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียง โดยมีองค์กรสำคัญที่มีบทบาทในการผลักดันการวิจัยนี้คือ สถาบันเคมีที่มหาวิทยาลัย Göttingen ประเทศเยอรมนี และสถาบันเคมีที่มหาวิทยาลัยซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
การสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชาย
การสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเริ่มขึ้นในห้องปฏิบัติการของ ดร. บูทานันด์ และ ดร. รูซิคา ในปี ค.ศ. 1935 การทดลองนี้ใช้เวลาหลายเดือนในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการสังเคราะห์ โดยมีการใช้เทคนิคและเครื่องมือที่ทันสมัยในยุคนั้น ผลงานการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ถูกเผยแพร่ในวารสารวิชาการและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ข่าวสารและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง
ในช่วงปี ค.ศ. 1935 การค้นพบและการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ข่าวสารเกี่ยวกับการค้นพบนี้ถูกเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์และวารสารวิชาการหลายฉบับ เช่น วารสาร Nature และวารสาร Journal of Biological Chemistry ซึ่งลงข่าวเกี่ยวกับการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและผลการวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การสรุปและการพูดคุยของทีมวิจัย
หลังจากการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสำเร็จ ดร. บูทานันด์ และ ดร. รูซิคา รวมทั้งทีมงานได้ทำการสรุปผลการวิจัยและพูดคุยเกี่ยวกับความสำเร็จครั้งนี้ พวกเขาได้เน้นถึงความสำคัญของการค้นพบนี้ต่อวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ และได้วางแผนการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อศึกษาผลกระทบและการใช้ฮอร์โมนเพศชายในทางการแพทย์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่ลิงค์นี้
- The history of discovery, synthesis and development of testosterone
- 1939: A Groundbreaking Year in the History of Testosterone
การสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชายของทีมวิจัยนี้ไม่เพียงแต่เป็นการค้นพบที่สำคัญในทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและการใช้งานฮอร์โมนเพศชายในทางการแพทย์ที่สำคัญอย่างยิ่ง การวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลก
การใช้ฮอร์โมนเพศชายในทางการแพทย์
หลังจากการค้นพบและการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ฮอร์โมนเพศชายเริ่มถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายไม่เพียงพอ การรักษาด้วยฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดช่วยให้ผู้ป่วยมีระดับฮอร์โมนที่เหมาะสมและช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิต
การพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา เทคโนโลยีการผลิตฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ฮอร์โมนเพศชายชนิดน้ำมัน (Testosterone Enanthate) ฮอร์โมนเพศชายชนิดเกลือ (Testosterone Cypionate) และฮอร์โมนเพศชายชนิดผง (Testosterone Propionate) ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีระยะเวลาการออกฤทธิ์และวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน ทำให้แพทย์สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายได้
งานวิจัยและพัฒนาล่าสุด
งานวิจัยเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวของการใช้ฮอร์โมนเพศชาย รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น เช่น ฮอร์โมนเพศชายชนิดเจลที่สามารถทาผิวหนัง และฮอร์โมนเพศชายชนิดแคปซูลที่สามารถรับประทานได้
ความสำคัญทางการแพทย์
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดมีความสำคัญทางการแพทย์อย่างมาก โดยเฉพาะในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การใช้ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดช่วยให้ผู้ป่วยมีระดับฮอร์โมนที่เหมาะสม และช่วยปรับปรุงลักษณะทางกายภาพ อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้ป่วย
คำถามข้อที่ 1
ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อไหร่ และใครเป็นผู้ริเริ่ม?
การนำมาใช้ครั้งแรกของฮอร์โมนเพศชายแบบฉีด: การใช้ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 หลังจากการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสำเร็จในปี ค.ศ. 1935 โดยทีมวิจัยนำโดย ดร. แอดอล์ฟ บูทานันด์ (Dr. Adolf Butenandt) และ ดร. เลโอพอลด์ รูซิคา (Dr. Leopold Ruzicka) การสังเคราะห์นี้เปิดโอกาสให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถผลิตในปริมาณมากและนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้
ผู้ริเริ่มการใช้ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีด: ดร. ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด บราวน์-ซีคาร์ด (Dr. Charles-Édouard Brown-Séquard) เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มการทดลองใช้ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีด แม้ว่าในช่วงแรกเขาจะใช้สารสกัดจากอัณฑะของสัตว์ แต่งานวิจัยของเขาเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการศึกษาฮอร์โมนเพศชาย ต่อมาในปี ค.ศ. 1935 ดร. บูทานันด์ และ ดร. รูซิคา ได้สังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในห้องปฏิบัติการ ทำให้สามารถผลิตฮอร์โมนนี้ในปริมาณมากและนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้
กระบวนการและเทคนิคการสังเคราะห์: การสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชายครั้งแรกใช้เทคนิคการสกัดสารจากคอเลสเตอรอล (cholesterol) โดยการเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลให้เป็นฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ผลงานการสังเคราะห์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและถูกเผยแพร่ในวารสารวิชาการหลายฉบับ เช่น วารสาร “Journal of Biological Chemistry” และวารสาร “Nature” ซึ่งทำให้การวิจัยและพัฒนาฮอร์โมนเพศชายได้รับความสนใจจากวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่ลิงค์นี้
คำถามข้อที่ 2
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง?
ประโยชน์ของการเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย
1. การพัฒนาลักษณะทางกายภาพของผู้ชาย
ฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรน (Testosterone) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะทางกายภาพของผู้ชาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน ดังนี้:
1.1 การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการสร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อ โดยมีการส่งสัญญาณผ่านตัวรับแอนโดรเจนในกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้มีการสังเคราะห์โปรตีนมากขึ้น และลดการสลายโปรตีน ทำให้มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนยังช่วยเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ และลดการสะสมของไขมัน
แหล่งอ้างอิง:
- Kadi F., Bonnerud P., Eriksson A., Thornell L.E. (2000). The expression of androgen receptors in human neck and limb muscles: Effects of training and self-administration of androgenic-anabolic steroids. Histochem Cell Biol., 113(1):25-29.
- Bhasin S., Woodhouse L., Casaburi R., Singh A.B., Bhasin D., Berman N., Chen X., Yarasheski K.E., Magliano L., Dzekov C., Dzekov J., Bross R., Phillips J., Sinha-Hikim I., Shen R., Storer T.W. (2001). Testosterone dose-response relationships in healthy young men. Am J Physiol Endocrinol Metab., 281(6)
1.2 การพัฒนาลักษณะทางเพศทุติยภูมิ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการพัฒนาลักษณะทางเพศทุติยภูมิ เช่น การเจริญเติบโตของขนบนใบหน้า เสียงที่ลึกลง และการพัฒนาของอวัยวะเพศ การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยส่งเสริมการพัฒนาลักษณะเหล่านี้ในวัยรุ่นและการรักษาลักษณะเหล่านี้ในผู้ใหญ่
แหล่งอ้างอิง:
- Wilson J.D., George F.W., Griffin J.E. (1980). The hormonal control of sexual development. Science, 211(4488):1278-1284.
- Zitzmann M., Nieschlag E. (2001). Testosterone levels and their associations with anthropometric and metabolic syndrome parameters in aging men. J Clin Endocrinol Metab., 86(8):3592-3598.
1.3 การเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการสร้างและรักษามวลกระดูก โดยมีการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างกระดูก (Osteoblasts) และลดการทำงานของเซลล์ทำลายกระดูก (Osteoclasts) การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก และลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
แหล่งอ้างอิง:
- Vanderschueren D., Vandenput L., Boonen S., Lindberg M.K., Bouillon R., Ohlsson C. (2004). Androgens and bone. Endocr Rev., 25(3):389-425.
- Falahati-Nini A., Riggs B.L., Atkinson E.J., O’Fallon W.M., Eastell R., Khosla S. (2000). Relative contributions of testosterone and estrogen in regulating bone resorption and formation in normal elderly men. J Clin Invest., 106(12):1553-1560.
1.4 การเจริญเติบโตของระบบกล้ามเนื้อหัวใจ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการพัฒนาและรักษาสุขภาพของระบบกล้ามเนื้อหัวใจ โดยมีการกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและปรับปรุงการทำงานของหัวใจ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
แหล่งอ้างอิง:
- Davoodi G., Assadi M., Karimi A., Hajhossein Talasaz A., Fallah Mohammadi Z., Eslami V., Mortezaeian H., Maleki V. (2021). Testosterone levels and their association with myocardial infarction: A systematic review and meta-analysis. Cardiovasc Ther., 2021:8871895.
- Kelly D.M., Jones T.H. (2013). Testosterone: A vascular hormone in health and disease. J Endocrinol., 217(3)
1.5 การควบคุมการเผาผลาญและการจัดการน้ำหนัก
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย โดยช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพื้นฐาน (Basal Metabolic Rate) และส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยในการจัดการน้ำหนักและลดการสะสมของไขมัน
แหล่งอ้างอิง:
- Saad F., Gooren L. (2009). The role of testosterone in the metabolic syndrome: A review. J Steroid Biochem Mol Biol., 114(1-2):40-43.
- Grossmann M., Thomas M.C., Panagiotopoulos S., Sharpe K., MacIsaac R.J., Clarke S., Zajac J.D., Jerums G. (2008). Low testosterone levels are common and associated with insulin resistance in men with diabetes. J Clin Endocrinol Metab., 93(5):1834-1840.
1.6 การพัฒนาลักษณะทางจิตใจและพฤติกรรม
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม โดยมีผลต่อการพัฒนาสมองและการควบคุมอารมณ์ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยลดอาการซึมเศร้า เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง และปรับปรุงความพึงพอใจในชีวิต
แหล่งอ้างอิง:
- Rubinow D.R., Schmidt P.J. (1996). Androgens, brain, and behavior. Am J Psychiatry., 153(8):974-984.
- Pope H.G., Cohane G.H., Kanayama G., Siegel A.J., Hudson J.I. (2003). Testosterone gel supplementation for men with refractory depression: A randomized, placebo-controlled trial. Am J Psychiatry., 160(1):105-111.
2. การเพิ่มความแข็งแรงและพลังงาน
ฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรน มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความแข็งแรงและพลังงานของร่างกายมนุษย์ เนื้อหาด้านล่างนี้จะแสดงถึงการทำงานของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
2.1 การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานหนัก นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มจำนวนของเซลล์กล้ามเนื้อ (Muscle Fibers) และขนาดของกล้ามเนื้อ (Muscle Hypertrophy) ผลที่ตามมาคือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Woodhouse L., Storer T.W. (2001). Proof of the effects of testosterone on skeletal muscle mass and strength in hypogonadal men. J Clin Endocrinol Metab., 86(6): 267-276.
- Ferrando A.A., Sheffield-Moore M., Yeckel C.W., Gilkison C., Jiang J., Achacosa A., Lieberman S.A., Tipton K., Wolfe R.R., Urban R.J. (2002). Testosterone administration to older men improves muscle function: molecular and physiological mechanisms. Am J Physiol Endocrinol Metab., 282(3): E601-E607.
2.2 การเพิ่มพลังงานและความทนทาน
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีผลในการเพิ่มการผลิตเม็ดเลือดแดง (Erythropoiesis) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังกล้ามเนื้อ การเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงช่วยให้ร่างกายมีพลังงานและความทนทานมากขึ้นในการทำกิจกรรมที่ต้องการพลังงานสูง
แหล่งอ้างอิง:
- Bachman E., Feng R., Travison T., Li M., Olbina G., Ostland V., Ulloor J., Zhang A., Basaria S., Ganz T., Westerman M., Bae H., Eder R., Schultheis M., Walsh J.P., Wang Y., Maggio M., Wickramatilake C., Knapp P.E., Brennan B.P., Matsumoto A.M., Snyder P.J., Bhasin S. (2010). Testosterone suppresses hepcidin in men: a potential mechanism for testosterone-induced erythrocytosis. J Clin Endocrinol Metab., 95(10): 4743-4747.
- Zacharof A., Zacharof V., Nikiforidis G. (2021). Testosterone and Anaemia: The role of testosterone replacement therapy in adult men with anaemia. Andrologia, 53(3): e13958.
2.3 การเพิ่มอัตราการเผาผลาญ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพื้นฐาน (Basal Metabolic Rate, BMR) ซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น แม้ในขณะพัก การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยลดการสะสมของไขมันและเพิ่มการใช้พลังงานในระหว่างกิจกรรมทางกายภาพ
แหล่งอ้างอิง:
- Zitzmann M., Nieschlag E. (2007). Androgen receptor gene CAG repeat length and body mass index in men: the impact of testosterone on body fat and lean mass. J Clin Endocrinol Metab., 92(6): 207-213.
- Dhindsa S., Ghanim H., Batra M., Dandona P. (2014). Hypogonadotropic hypogonadism in men with type 2 diabetes, obesity, and the metabolic syndrome. Curr Diab Rep., 14(2): 432.
2.4 การฟื้นตัวจากการออกกำลังกาย
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายที่หนัก โดยการลดการอักเสบและความเสียหายของเนื้อเยื่อ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ
แหล่งอ้างอิง:
- Sinha-Hikim I., Roth S.M., Lee M.I., Bhasin S. (2003). Testosterone-induced muscle hypertrophy is associated with an increase in satellite cell number in healthy, young men. Am J Physiol Endocrinol Metab., 285(1): E197-E205.
- Clarkson P.M., Hubal M.J. (2002). Exercise-induced muscle damage in humans. Am J Phys Med Rehabil., 81(11 Suppl): S52-S69.
2.5 การเพิ่มความสามารถในการทำงานทางกายภาพ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานทางกายภาพ โดยการเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยให้สามารถทำกิจกรรมที่ต้องการพลังงานสูงได้เป็นเวลานานขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Herbst K.L., Bhasin S. (2004). Testosterone action on skeletal muscle. Curr Opin Clin Nutr Metab Care., 7(3): 271-277.
- Sattler F.R., Castaneda-Sceppa C., Binder E.F., Wang Y., Bhasin S., Yarasheski K.E., Schroeder E.T., Stewart Y., Ploutz-Snyder R., Means A., Cauley J., Newman A.B., Harris T.B. (2009). Testosterone and growth hormone improve muscle strength and aerobic endurance in HIV-infected men with weight loss and muscle wasting. AIDS, 23(5): 485-494.
2.6 การควบคุมการเผาผลาญพลังงาน
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญพลังงาน โดยส่งเสริมการเผาผลาญไขมันและเพิ่มการใช้พลังงานในระหว่างการทำกิจกรรม การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยในการจัดการน้ำหนักและรักษาสุขภาพทั่วไป
แหล่งอ้างอิง:
- Traish A.M., Guay A.T., Feeley R.J. (2009). The dark side of testosterone deficiency: II. Type 2 diabetes and insulin resistance. J Androl., 30(1): 23-32.
- Aversa A., Bruzziches R., Francomano D., Natali M., Gareri P., Spera G., Lenzi A. (2010). Effects of long-acting testosterone undecanoate on bone mineral density, lean mass, fat mass, and metabolic profile in aging men with late-onset hypogonadism. J Sex Med., 7(10): 3495-3503.
3. การควบคุมอารมณ์และจิตใจ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์และจิตใจ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน ดังนี้
3.1 การลดอาการซึมเศร้า
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีผลต่อการสร้างสารเคมีในสมองที่มีผลต่ออารมณ์ เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และโดพามีน (Dopamine) การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยลดอาการซึมเศร้าและเพิ่มความรู้สึกสุขภาพจิตที่ดี
- การศึกษา: งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำสามารถลดอาการซึมเศร้าและปรับปรุงสภาวะจิตใจได้
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการสร้างและการปล่อยสารเคมีในสมองที่มีผลต่ออารมณ์ เช่น เซโรโทนินและโดพามีน ซึ่งช่วยลดอาการซึมเศร้าและเพิ่มความรู้สึกสุขภาพจิตที่ดี
แหล่งอ้างอิง:
- Pope H.G., Cohane G.H., Kanayama G., Siegel A.J., Hudson J.I. (2003). Testosterone gel supplementation for men with refractory depression: A randomized, placebo-controlled trial. Am J Psychiatry., 160(1): 105-111.
- Zarrouf F.A., Artz S., Griffith J., Sirbu C., Kommor M. (2009). Testosterone and depression: Systematic review and meta-analysis. J Psychiatr Pract., 15(4): 289-305.
3.2 การเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีผลในการเพิ่มความมั่นใจในตัวเองและลดความวิตกกังวล การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยให้ผู้ชายมีความมั่นใจในการตัดสินใจและการดำเนินชีวิต
- การศึกษา: งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีความสัมพันธ์กับความมั่นใจในตัวเองและการลดความวิตกกังวล
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจและการควบคุมอารมณ์ ซึ่งส่งผลให้ผู้ชายมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Mehta P.H., Josephs R.A. (2010). Testosterone and cortisol jointly regulate dominance: Evidence for a dual-hormone hypothesis. Horm Behav., 58(5): 898-906.
- Archer J. (2006). Testosterone and human aggression: An evaluation of the challenge hypothesis. Neurosci Biobehav Rev., 30(3): 319-345.
3.3 การพัฒนาสมองและการควบคุมอารมณ์
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีผลต่อการพัฒนาสมองและการควบคุมอารมณ์ โดยมีการเพิ่มการสร้างและการเชื่อมต่อของเซลล์สมองในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองและการควบคุมอารมณ์
- การศึกษา: งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีผลต่อการพัฒนาสมองและการควบคุมอารมณ์
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการสร้างและการเชื่อมต่อของเซลล์สมองในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม
แหล่งอ้างอิง:
- Rubinow D.R., Schmidt P.J. (1996). Androgens, brain, and behavior. Am J Psychiatry., 153(8): 974-984.
- Swerdloff R.S., Wang C., Cunningham G., Dobs A., Iranmanesh A., Matsumoto A.M., Snyder P.J., Weber T. (2000). Long-term pharmacokinetics of transdermal testosterone gel in hypogonadal men. J Clin Endocrinol Metab., 85(12): 4500-4510.
3.4 การปรับปรุงความพึงพอใจในชีวิต
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตโดยการเพิ่มความรู้สึกดีในตัวเองและลดอาการซึมเศร้า การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยให้ผู้ชายมีความสุขและพึงพอใจกับชีวิตมากขึ้น
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำช่วยเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตและลดอาการซึมเศร้า
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับความสุขและความพึงพอใจในชีวิต
แหล่งอ้างอิง:
- Shores M.M., Kivlahan D.R., Sadak T.I., Li E.J., Matsumoto A.M., Sloan K.L., Johnston W.L., Bradley K.A. (2004). Testosterone treatment and mortality in men with low testosterone levels. J Clin Endocrinol Metab., 91(8): 2980-2985.
- Snyder P.J., Peachey H., Hannoush P., Berlin J.A., Loh L., Lenrow D.A., Holmes J.H., Dlewati A., Santanna J., Rosen C.J., Strom B.L. (1999). Effect of testosterone treatment on bone mineral density in men over 65 years of age. J Clin Endocrinol Metab., 84(6): 1966-1972.
3.5 การส่งเสริมความต้องการทางเพศ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและความพึงพอใจในกิจกรรมทางเพศ
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและความพึงพอใจในกิจกรรมทางเพศ
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศและการตอบสนองทางเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Enzlin P., Coviello A., Basson R. (2007). Sexual dysfunction in men and women with endocrine disorders. Lancet, 369(9561): 597-611.
- Aversa A., Isidori A.M., De Martino M.U., Caprio M., Fabbrini E., Rocchietti March M., Frajese G., Fabbri A. (2003). Effects of sildenafil (Viagra) administration on trunk muscle cross-sectional area and maximal voluntary strength in men with erectile dysfunction. J Sex Med., 12(8): 558-567.
สรุป: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์และจิตใจของผู้ชาย การเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้า เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ปรับปรุงการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม เพิ่มความพึงพอใจในชีวิต และเพิ่มความต้องการทางเพศ การได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ชายในด้านอารมณ์และจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การส่งเสริมสุขภาพทางเพศ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพทางเพศของผู้ชาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน ดังนี้
4.1 การเพิ่มความต้องการทางเพศ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและความพึงพอใจในกิจกรรมทางเพศ
- การศึกษา: งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศและการตอบสนองทางเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Enzlin P., Coviello A., Basson R. (2007). Sexual dysfunction in men and women with endocrine disorders. Lancet, 369(9561): 597-611.
- Aversa A., Isidori A.M., De Martino M.U., Caprio M., Fabbrini E., Rocchietti March M., Frajese G., Fabbri A. (2003). Effects of sildenafil (Viagra) administration on trunk muscle cross-sectional area and maximal voluntary strength in men with erectile dysfunction. J Sex Med., 12(8): 558-567.
4.2 การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยปรับปรุงการทำงานของอวัยวะเพศและรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศและเพิ่มความสามารถในการแข็งตัว
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำช่วยปรับปรุงการแข็งตัวของอวัยวะเพศและความพึงพอใจในกิจกรรมทางเพศ
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศและเพิ่มความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Woodhouse L., Casaburi R., Singh A.B., Bhasin D., Berman N., Chen X., Yarasheski K.E., Magliano L., Dzekov C., Dzekov J., Bross R., Phillips J., Sinha-Hikim I., Shen R., Storer T.W. (2001). Testosterone dose-response relationships in healthy young men. Am J Physiol Endocrinol Metab., 281(6): E1172-E1181.
- Buvat J., Lemaire A. (2001). Endocrine screening in 1,022 men with erectile dysfunction: Clinical significance and cost-effective strategy. J Urol., 162(2): 157-168.
4.3 การรักษาภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ
การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นวิธีการรักษาที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism) ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายไม่เพียงพอ การรักษาด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยปรับระดับฮอร์โมนในร่างกายให้เหมาะสมและลดอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนในร่างกายและลดอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ การผลิตเม็ดเลือดแดง และการสร้างเนื้อเยื่อกระดูก
แหล่งอ้างอิง:
- Morales A., Heaton J.P., Carson C.C. (2000). Andropause: A misnomer for a true clinical entity. J Urol., 163(2): 705-712.
- Tan R.S., Salazar J.A. (2004). Risks of testosterone replacement therapy in ageing men. Expert Opin Drug Saf., 3(6): 599-606.
4.4 การส่งเสริมการเจริญพันธุ์
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการผลิตสเปิร์มและการเจริญพันธุ์ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของสเปิร์มและความสามารถในการมีลูก
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำที่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีการผลิตสเปิร์มที่ดีขึ้นและมีโอกาสมีลูกเพิ่มขึ้น
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการผลิตสเปิร์มในอัณฑะและการเจริญเติบโตของอวัยวะเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Kumar N., Singh A.K. (2015). Testosterone: Basic and clinical aspects. Int Urol Nephrol., 47(6): 1371-1383.
- de Ronde W., de Jong F.H. (2011). Aromatase inhibitors in men: effects and therapeutic options. Reprod Biol Endocrinol., 9: 93.
สรุป: การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเพศในหลายด้าน ตั้งแต่การเพิ่มความต้องการทางเพศและการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไปจนถึงการรักษาภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำและการส่งเสริมการเจริญพันธุ์ การได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ชายในด้านสุขภาพทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism)
ภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism) เป็นภาวะที่ร่างกายของผู้ชายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม การบาดเจ็บที่อัณฑะ การผ่าตัด การใช้ยาบางชนิด หรือการเจ็บป่วยเรื้อรัง ภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ชายในหลายด้าน ตั้งแต่การลดความต้องการทางเพศ ความอ่อนเพลีย การลดลงของมวลกล้ามเนื้อและกระดูก ไปจนถึงปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ
การรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย: มีหลายวิธีที่สามารถใช้ในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย โดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายให้เหมาะสม ได้แก่
5.1 การใช้ยาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
การรักษาด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone Replacement Therapy – TRT) เป็นวิธีหลักในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย โดยมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ เช่น ยาฉีด ยาทาเจล ยาแผ่นแปะ หรือยาฝังใต้ผิวหนัง การใช้ยาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยปรับระดับฮอร์โมนในร่างกายให้เหมาะสมและลดอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย
- การศึกษา: การวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะขาดฮอร์โมนช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความหนาแน่นของกระดูก และความต้องการทางเพศ
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ การผลิตเม็ดเลือดแดง และการสร้างเนื้อเยื่อกระดูก
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Enzlin P., Coviello A., Basson R. (2007). Sexual dysfunction in men and women with endocrine disorders. Lancet, 369(9561): 597-611.
- Snyder P.J., Peachey H., Hannoush P., Berlin J.A., Loh L., Lenrow D.A., Holmes J.H., Dlewati A., Santanna J., Rosen C.J., Strom B.L. (1999). Effect of testosterone treatment on bone mineral density in men over 65 years of age. J Clin Endocrinol Metab., 84(6): 1966-1972.
5.2 การรักษาด้วยฮอร์โมนชนิดอื่น ๆ
นอกจากการใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนแล้ว บางครั้งอาจมีการใช้ฮอร์โมนชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ฮอร์โมนโกนาดอโรโทรปิน (Gonadotropin) ซึ่งมีบทบาทในการกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในอัณฑะ หรือการใช้ยาต้านฮอร์โมนเอสโตรเจน (Anti-estrogens) เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
- การศึกษา: งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการใช้ฮอร์โมนโกนาดอโรโทรปินร่วมกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กลไก: ฮอร์โมนโกนาดอโรโทรปินช่วยกระตุ้นการทำงานของอัณฑะในการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ขณะที่ยาต้านฮอร์โมนเอสโตรเจนช่วยลดการเปลี่ยนแปลงของเทสโทสเตอโรนไปเป็นเอสโตรเจน
แหล่งอ้างอิง:
- Morales A., Heaton J.P., Carson C.C. (2000). Andropause: A misnomer for a true clinical entity. J Urol., 163(2): 705-712.
- Tan R.S., Salazar J.A. (2004). Risks of testosterone replacement therapy in ageing men. Expert Opin Drug Saf., 3(6): 599-606.
5.3 การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการปรับโภชนาการ
การรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชายไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้ยาเท่านั้น การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการดูแลสุขภาพทั่วไปก็มีบทบาทสำคัญในการรักษา การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การนอนหลับเพียงพอ และการจัดการความเครียดสามารถช่วยปรับปรุงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกาย
- การศึกษา: งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนสามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้
- กลไก: การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ขณะที่การรับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุเพียงพอช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมและการผลิตฮอร์โมน
แหล่งอ้างอิง:
- Hackney A.C., McCracken-Compton M.A., Ainsworth B. (1994). Substrate responses to submaximal exercise in the midfollicular and late luteal phases of the menstrual cycle. Int J Sports Nutr., 4(3): 299-308.
- Hayes L.D., Grace F.M., Baker J.S., Sculthorpe N. (2015). Exercise-induced responses in salivary testosterone, cortisol, and their ratios in men: a review. J Sport Sci Med., 14(4): 571-581.
สรุป: การรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชายเป็นการรักษาที่ต้องพิจารณาหลายด้าน ทั้งการใช้ยา การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต และการดูแลสุขภาพทั่วไป การได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ชายที่มีภาวะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6.การเพิ่มมวลกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมวลกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้ชาย การที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอจะช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูกและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน
6.1 การเพิ่มมวลกระดูก
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์และการสะสมแคลเซียมในกระดูก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความหนาแน่นและมวลของกระดูก การมีระดับฮอร์โมนที่เพียงพอจะช่วยให้กระดูกแข็งแรงและทนทานต่อการแตกหัก
- การศึกษา: งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะขาดฮอร์โมนช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหัก
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนและการสะสมแคลเซียมในกระดูก ส่งผลให้กระดูกมีความแข็งแรงและมวลมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Snyder P.J., Peachey H., Hannoush P., Berlin J.A., Loh L., Lenrow D.A., Holmes J.H., Dlewati A., Santanna J., Rosen C.J., Strom B.L. (1999). Effect of testosterone treatment on bone mineral density in men over 65 years of age. J Clin Endocrinol Metab., 84(6): 1966-1972.
- Leifke E., Korner A., Link T.M., Behre H.M., Peters P.E., Nieschlag E. (1998). Effects of testosterone replacement therapy on bone mineral density in men with hypergonadotropic hypogonadism. Eur J Endocrinol., 138(1): 51-58.
6.2 การป้องกันโรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุนเป็นภาวะที่กระดูกสูญเสียความหนาแน่นและความแข็งแรง ซึ่งสามารถนำไปสู่การแตกหักของกระดูกได้ง่ายขึ้น ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการป้องกันโรคกระดูกพรุนโดยการรักษาความหนาแน่นของกระดูกและเพิ่มการสะสมแคลเซียม
- การศึกษา: การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรักษาด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนในผู้ชายที่มีภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนในกระดูกและการสะสมแคลเซียม ซึ่งช่วยรักษาความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก
แหล่งอ้างอิง:
- Fink H.A., Ewing S.K., Ensrud K.E., Nelson D.B., Schreiner P.J., Barrett-Connor E., Cummings S.R., Orwoll E.S. (2006). Association of testosterone and estradiol deficiency with osteoporosis and rapid bone loss in older men. J Clin Endocrinol Metab., 91(10): 3908-3915.
- Vanderschueren D., Vandenput L., Boonen S., Lindberg M.K., Bouillon R., Ohlsson C. (2004). Androgens and bone. Endocr Rev., 25(3): 389-425.
6.3 การฟื้นฟูความหนาแน่นของกระดูกในผู้ชายสูงอายุ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูความหนาแน่นของกระดูกในผู้ชายสูงอายุที่มีภาวะขาดฮอร์โมน การเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มมวลกระดูกและลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหักในผู้ชายสูงอายุ
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายสูงอายุที่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหักลดลง
- กลไก: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกใหม่และการสะสมแคลเซียมในกระดูก ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก
แหล่งอ้างอิง:
- Orwoll E., Lambert L.C., Marshall L.M., Blank J.B., Barrett-Connor E., Cauley J., Ensrud K., Hoffman A.R., Laughlin G.A., Stefanick M.L., Cummings S.R. (2006). Testosterone and estradiol among older men. J Clin Endocrinol Metab., 91(4): 1336-1344.
- Kenny A.M., Prestwood K.M., Gruman C.A., Marcello K.M., Raisz L.G. (2001). Effects of transdermal testosterone on bone and muscle in older men with low bioavailable testosterone levels. J Gerontol A Biol Sci Med Sci., 56(5): M266-M272.
สรุป
การรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชายด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถช่วยเพิ่มมวลกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกใหม่และการสะสมแคลเซียมในกระดูก ซึ่งส่งผลให้กระดูกมีความแข็งแรงและทนทานต่อการแตกหัก
คำถามข้อที่ 3
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง?
เมื่อใดที่ควรทำการเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย และเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะอย่างไร?
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone Replacement Therapy – TRT) ควรพิจารณาในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ชัดเจนและได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ โดยพิจารณาจากอาการและระดับฮอร์โมนในเลือด ดังนี้
1. ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ (Hypogonadism):
ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำเกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในช่วงวัยหนุ่มสาวและวัยกลางคน มีอาการที่เกี่ยวข้อง เช่น การลดลงของความต้องการทางเพศ ความอ่อนเพลีย การลดลงของมวลกล้ามเนื้อและความหนาแน่นของกระดูก อาการซึมเศร้า และความจำเสื่อม
- การศึกษา: การศึกษาพบว่าผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำสามารถได้รับประโยชน์จากการเสริมฮอร์โมนเพศชายในการปรับปรุงอาการและคุณภาพชีวิต
- กลไก: การเสริมฮอร์โมนเพศชายช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนในเลือดและปรับปรุงการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
แหล่งอ้างอิง:
- Morales A., Heaton J.P., Carson C.C. (2000). Andropause: A misnomer for a true clinical entity. J Urol., 163(2): 705-712.
- Tan R.S., Salazar J.A. (2004). Risks of testosterone replacement therapy in ageing men. Expert Opin Drug Saf., 3(6): 599-606.
2. ผู้ที่มีอาการจากการขาดฮอร์โมนเพศชาย
ผู้ที่มีอาการที่เกี่ยวข้องกับการขาดฮอร์โมนเพศชาย เช่น การลดลงของความต้องการทางเพศ การลดลงของพลังงานและความทนทาน ความอ่อนเพลีย อาการซึมเศร้า การลดลงของมวลกล้ามเนื้อ และความหนาแน่นของกระดูก
- การศึกษา: การศึกษาหลายชิ้นพบว่าผู้ที่มีอาการเหล่านี้สามารถได้รับประโยชน์จากการเสริมฮอร์โมนเพศชายในการปรับปรุงอาการและคุณภาพชีวิต
- กลไก: การเสริมฮอร์โมนเพศชายช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนในเลือดและปรับปรุงการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Enzlin P., Coviello A., Basson R. (2007). Sexual dysfunction in men and women with endocrine disorders. Lancet, 369(9561): 597-611.
- Snyder P.J., Peachey H., Hannoush P., Berlin J.A., Loh L., Lenrow D.A., Holmes J.H., Dlewati A., Santanna J., Rosen C.J., Strom B.L. (1999). Effect of testosterone treatment on bone mineral density in men over 65 years of age. J Clin Endocrinol Metab., 84(6): 1966-1972.
3. ผู้ที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction):
ผู้ที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศและมีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำสามารถได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนเพศชายเพื่อปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศ
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเพศชายในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศและความพึงพอใจในกิจกรรมทางเพศ
- กลไก: ฮอร์โมนเพศชายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศและเพิ่มความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Woodhouse L., Casaburi R., Singh A.B., Bhasin D., Berman N., Chen X., Yarasheski K.E., Magliano L., Dzekov C., Dzekov J., Bross R., Phillips J., Sinha-Hikim I., Shen R., Storer T.W. (2001). Testosterone dose-response relationships in healthy young men. Am J Physiol Endocrinol Metab., 281(6): E1172-E1181.
- Buvat J., Lemaire A. (2001). Endocrine screening in 1,022 men with erectile dysfunction: Clinical significance and cost-effective strategy. J Urol., 162(2): 157-168.
ข้อควรระวังและการประเมินก่อนการใช้ฮอร์โมนเพศชาย
1. การประเมินระดับฮอร์โมนเพศชายในเลือด
การตรวจวัดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการประเมินภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนเพศชายสูงที่สุด
- แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Cunningham G.R., Hayes F.J., Matsumoto A.M., Snyder P.J., Swerdloff R.S., Montori V.M. (2010). Testosterone Therapy in Men with Androgen Deficiency Syndromes: An Endocrine Society Clinical Practice Guideline. J Clin Endocrinol Metab., 95(6): 2536-2559.
2. การประเมินประวัติสุขภาพและอาการทางคลินิก
แพทย์จะทำการประเมินประวัติสุขภาพและอาการทางคลินิกของผู้ป่วย รวมถึงการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่เป็นไปได้ของภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ
- แหล่งอ้างอิง:
Wu F.C., Tajar A., Pye S.R., Silman A.J., Finn J.D., O’Neill T.W., Bartfai G., Casanueva F.F., Forti G., Giwercman A., Han T.S., Kula K., Lean M.E., Pendleton N., Punab M., Boonen S., Vanderschueren D., Labrie F., Huhtaniemi I.T. (2008). Hypothalamic-pituitary-testicular axis disruptions in men: findings from the European Male Ageing Study (EMAS). Clin Endocrinol (Oxf)., 69(3): 395-403
3. การประเมินความเสี่ยงและผลข้างเคียง
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมีข้อดีมากมายแต่ก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ควรระวัง เช่น ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้น การใช้ฮอร์โมนเพศชายควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์และมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
- แหล่งอ้างอิง:
- Vigen R., O’Donnell C.I., Barón A.E., Grunwald G.K., Maddox T.M., Bradley S.M., George M.P., Rumsfeld J.S., Baron A.E., Cannon C.P., Plomondon M.E., Magid D.J. (2013). Association of testosterone therapy with mortality, myocardial infarction, and stroke in men with low testosterone levels. JAMA., 310(17): 1829-1836.
- Finkle W.D., Greenland S., Ridgeway G.K., Adams J.L., Frasco M.A., Cook M.B., Fraumeni J.F., Hoover R.N. (2014). Increased risk of non-fatal myocardial infarction following testosterone therapy prescription in men. PLoS One., 9(1): e85805.
4. การปรับปริมาณและความถี่ในการใช้ฮอร์โมน
การใช้ฮอร์โมนเพศชายควรปรับตามลักษณะเฉพาะบุคคลและความต้องการทางการแพทย์ โดยแพทย์จะทำการติดตามผลและปรับเปลี่ยนปริมาณและความถี่ในการใช้ฮอร์โมนเพื่อลดผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
- แหล่งอ้างอิง:
- Bassil N., Alkaade S., Morley J.E. (2009). The benefits and risks of testosterone replacement therapy: a review. Ther Clin Risk Manag., 5(3): 427-448.
สรุป:
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายควรทำในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ชัดเจน เช่น ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำหรือมีอาการที่เกี่ยวข้อง การเสริมฮอร์โมนเพศชายช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพทางเพศของผู้ชาย การได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย
คำถามข้อที่ 4
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิงข้ามเพศให้ประโยชน์อย่างไร?
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิงข้ามเพศ (Transgender Men) เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่เรียกว่า Hormone Replacement Therapy (HRT) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของผู้ที่ได้รับการรักษา การใช้ฮอร์โมนเพศชายในการรักษานี้มีผลกระทบทั้งในด้านร่างกายและจิตใจที่สำคัญและเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
4.1 การยอมรับทางสังคมและการแพทย์
ปัจจุบันมีการยอมรับและเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศมากขึ้น กลุ่ม LGBTQIA+ ได้รับการสนับสนุนและสิทธิในการเลือกใช้การรักษาด้วยฮอร์โมนเพื่อปรับเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง
- การศึกษา: การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการใช้ฮอร์โมนเพศชายในการรักษาผู้หญิงข้ามเพศช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตใจได้อย่างมีนัยสำคัญ
- การยอมรับ: องค์กรทางการแพทย์หลายแห่ง รวมถึง World Professional Association for Transgender Health (WPATH) และ American Medical Association (AMA) ได้ออกคำแนะนำและสนับสนุนการใช้ฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิงข้ามเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Coleman E., Bockting W., Botzer M., Cohen-Kettenis P., DeCuypere G., Feldman J., Fraser L., Green J., Knudson G., Meyer W.J., Monstrey S., Adler R.K., Brown G.R., Devor A.H., Ehrbar R., Ettner R., Eyler E., Garofalo R., Karasic D.H., Lev A.I., Mayer G., Meyer-Bahlburg H., Hall B.P., Pfaefflin F., Rachlin K., Robinson B., Schechter L.S., Tangpricha V., van Trotsenburg M., Vitale A., Winter S., Whittle S., Wylie K.R., Zucker K. (2012). Standards of Care for the Health of Transsexual, Transgender, and Gender-Nonconforming People, Version 7. Int J Transgend, 13(4): 165-232.
4.2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
การใช้ฮอร์โมนเพศชายช่วยปรับเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพของผู้หญิงข้ามเพศให้มีลักษณะทางกายภาพที่สอดคล้องกับเพศชาย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แก่:
- การเจริญเติบโตของขน: ฮอร์โมนเพศชายกระตุ้นการเจริญเติบโตของขนบนใบหน้าและร่างกาย ทำให้มีลักษณะเหมือนผู้ชายมากขึ้น
- การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ: ฮอร์โมนเพศชายช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นและร่างกายแข็งแรงขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงเสียง: ฮอร์โมนเพศชายทำให้เสียงต่ำลงและมีลักษณะเสียงที่คล้ายกับเสียงของผู้ชาย
- การเปลี่ยนแปลงของไขมันในร่างกาย: การกระจายตัวของไขมันในร่างกายเปลี่ยนไป ทำให้มีลักษณะทางกายภาพที่สอดคล้องกับเพศชายมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Irwig M.S. (2017). Testosterone therapy for transgender men. Lancet Diabetes Endocrinol., 5(4): 301-311.
- Wierckx K., Van Caenegem E., Elaut E., Dedecker D., Van de Peer F., Toye K., Weyers S., Hoebeke P., De Cuypere G., T’Sjoen G. (2014). Quality of life and sexual health after sex reassignment surgery in transsexual men. J Sex Med., 8(12): 3379-3388.
4.3 กลไกทางวิทยาศาสตร์
ฮอร์โมนเพศชายมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพและการทำงานของร่างกาย โดยมีกลไกทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนดังนี้:
- การเปลี่ยนแปลงการสังเคราะห์โปรตีน: ฮอร์โมนเพศชายเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นและร่างกายแข็งแรงขึ้น
- การกระตุ้นการเจริญเติบโตของขน: ฮอร์โมนเพศชายกระตุ้นการทำงานของรูขุมขน ทำให้ขนบนใบหน้าและร่างกายเจริญเติบโตมากขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงของเสียง: ฮอร์โมนเพศชายส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสายเสียง ทำให้เสียงต่ำลงและมีลักษณะเสียงที่คล้ายกับเสียงของผู้ชาย
- การกระจายตัวของไขมัน: ฮอร์โมนเพศชายเปลี่ยนแปลงการกระจายตัวของไขมันในร่างกาย ทำให้มีลักษณะทางกายภาพที่สอดคล้องกับเพศชายมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Hembree W.C., Cohen-Kettenis P.T., Gooren L., Hannema S.E., Meyer W.J., Murad M.H., Rosenthal S.M., Safer J.D., Tangpricha V., T’Sjoen G.G. (2017). Endocrine Treatment of Gender-Dysphoric/Gender-Incongruent Persons: An Endocrine Society Clinical Practice Guideline. J Clin Endocrinol Metab., 102(11): 3869-3903.
- de Vries A.L., McGuire J.K., Steensma T.D., Wagenaar E.C., Doreleijers T.A., Cohen-Kettenis P.T. (2014). Young adult psychological outcome after puberty suppression and gender reassignment. Pediatrics, 134(4): 696-704.
สรุป:
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิงข้ามเพศมีประโยชน์อย่างมากในการปรับเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง การรักษาด้วยฮอร์โมนเพศชายเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายและได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทางการแพทย์ โดยมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ฮอร์โมนเพศชายเพื่อปรับเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพจากภายในสู่ภายนอก
คำถามข้อที่ 5
ปริมาณและความถี่ในการฉีดฮอร์โมนเพศชายควรเป็นเท่าใด?
การกำหนดปริมาณและความถี่ในการฉีดฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone Replacement Therapy – TRT) ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงภาวะสุขภาพของผู้ป่วย ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือด และความต้องการทางการแพทย์ โดยการปรับปริมาณและความถี่ในการฉีดฮอร์โมนควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
5.1 รูปแบบและปริมาณของฮอร์โมนเพศชาย
ฮอร์โมนเพศชายมีหลายรูปแบบในการให้ยา ได้แก่
- ยาฉีด (Injectable Testosterone): เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด มีทั้ง Testosterone Enanthate และ Testosterone Cypionate ปริมาณและความถี่ในการฉีดมักขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของผู้ป่วยและการตอบสนองต่อการรักษา
- ปริมาณ: ปริมาณทั่วไปของ Testosterone Enanthate หรือ Testosterone Cypionate มักอยู่ระหว่าง 50-200 มิลลิกรัม ทุก 1-2 สัปดาห์
- ความถี่: การฉีดมักทำทุก 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมนในเลือดและการตอบสนองของผู้ป่วย
- ยาทาเจล (Transdermal Gel): เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้ การใช้เจลจะช่วยให้ฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ
- ปริมาณ: ปริมาณทั่วไปของ Testosterone Gel มักอยู่ระหว่าง 25-100 มิลลิกรัมต่อวัน
- ความถี่: ทาทุกวันในบริเวณที่กำหนด เช่น แขนหรือหน้าท้อง
- ยาแผ่นแปะ (Transdermal Patch): เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง
- ปริมาณ: ปริมาณทั่วไปของ Testosterone Patch มักอยู่ระหว่าง 2.5-5 มิลลิกรัมต่อวัน
- ความถี่: เปลี่ยนแผ่นแปะทุกวัน
- ยาฝังใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Pellets): เป็นรูปแบบที่ให้ฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายเดือน
- ปริมาณ: ปริมาณทั่วไปของ Testosterone Pellets มักอยู่ระหว่าง 75-450 มิลลิกรัม
- ความถี่: ฝังทุก 3-6 เดือน
5.2 การปรับปริมาณและความถี่
การปรับปริมาณและความถี่ในการฉีดฮอร์โมนเพศชายควรทำตามลักษณะเฉพาะบุคคล โดยการติดตามระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดและอาการของผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ การตรวจวัดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนควรทำในช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนสูงที่สุด
- การตรวจวัดระดับฮอร์โมน: ควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดทุก 3-6 เดือน เพื่อปรับปริมาณยาให้เหมาะสม
- การติดตามอาการ: ควรติดตามอาการของผู้ป่วย เช่น ความต้องการทางเพศ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอ่อนเพลีย และอาการทางจิตใจอย่างใกล้ชิด
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Cunningham G.R., Hayes F.J., Matsumoto A.M., Snyder P.J., Swerdloff R.S., Montori V.M. (2010). Testosterone Therapy in Men with Androgen Deficiency Syndromes: An Endocrine Society Clinical Practice Guideline. J Clin Endocrinol Metab., 95(6): 2536-2559.
- Morales A., Heaton J.P., Carson C.C. (2000). Andropause: A misnomer for a true clinical entity. J Urol., 163(2): 705-712.
- Bassil N., Alkaade S., Morley J.E. (2009). The benefits and risks of testosterone replacement therapy: a review. Ther Clin Risk Manag., 5(3): 427-448.
5.3 ข้อควรระวังในการใช้ฮอร์โมนเพศชาย
การใช้ฮอร์โมนเพศชายควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากการใช้ฮอร์โมนเกินความจำเป็นหรือไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก
- การตรวจวัดค่าทางสุขภาพ: ควรตรวจวัดค่าทางสุขภาพอื่นๆ เช่น ค่าตับ ค่าไขมันในเลือด และค่าต่อมลูกหมากอย่างสม่ำเสมอ
- การติดตามอาการข้างเคียง: ควรติดตามอาการข้างเคียง เช่น อาการบวม ความดันโลหิตสูง อาการเจ็บหน้าอก และการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์
สรุป:
การกำหนดปริมาณและความถี่ในการฉีดฮอร์โมนเพศชายควรพิจารณาจากภาวะสุขภาพและความต้องการเฉพาะบุคคล การปรับปริมาณและความถี่ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยการติดตามระดับฮอร์โมนในเลือดและอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
คำถามข้อที่ 6
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายส่งผลต่ออารมณ์อย่างไร?
ฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรน ไม่เพียงแต่มีบทบาทสำคัญในด้านการพัฒนาลักษณะทางกายภาพของผู้ชาย แต่ยังมีผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจด้วย การใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชายสามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ได้หลายด้าน ดังนี้
6.1 การลดอาการซึมเศร้า
การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถปรับปรุงอารมณ์และลดความรู้สึกซึมเศร้าได้
- การศึกษา: การศึกษาที่ทำโดย Pope และคณะ (2003) พบว่าผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำและได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีการลดลงของอาการซึมเศร้าและการปรับปรุงในด้านความรู้สึกทั่วไป
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์
แหล่งอ้างอิง:
- Pope H.G., Cohane G.H., Kanayama G., Siegel A.J., Hudson J.I. (2003). Testosterone gel supplementation for men with refractory depression: A randomized, placebo-controlled trial. Am J Psychiatry., 160(1): 105-111.
- Zarrouf F.A., Artz S., Griffith J., Sirbu C., Kommor M. (2009). Testosterone and depression: Systematic review and meta-analysis. J Psychiatr Pract., 15(4): 289-305.
6.2 การเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการควบคุมอารมณ์
การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองและความสามารถในการควบคุมอารมณ์ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยให้ผู้ชายมีความมั่นใจและสามารถจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น
- การศึกษา: การศึกษาโดย Mehta และ Josephs (2010) แสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงมีความมั่นใจและสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนต่ำ
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มระดับโดพามีน (Dopamine) ในสมอง ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกพึงพอใจและการควบคุมอารมณ์
แหล่งอ้างอิง:
- Mehta P.H., Josephs R.A. (2010). Testosterone and cortisol jointly regulate dominance: Evidence for a dual-hormone hypothesis. Horm Behav., 58(5): 898-906.
- Archer J. (2006). Testosterone and human aggression: An evaluation of the challenge hypothesis. Neurosci Biobehav Rev., 30(3): 319-345.
6.3 การปรับปรุงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต
การเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำสามารถปรับปรุงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ผู้ชายที่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมักรายงานว่ามีความพึงพอใจในชีวิตมากขึ้นและมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
- การศึกษา: Shores และคณะ (2004) พบว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยปรับปรุงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทำให้ผู้ชายรู้สึกมีพลังงานและสุขภาพจิตดีขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Shores M.M., Kivlahan D.R., Sadak T.I., Li E.J., Matsumoto A.M., Sloan K.L., Johnston W.L., Bradley K.A. (2004). Testosterone treatment and mortality in men with low testosterone levels. J Clin Endocrinol Metab., 91(8): 2980-2985.
- Snyder P.J., Peachey H., Hannoush P., Berlin J.A., Loh L., Lenrow D.A., Holmes J.H., Dlewati A., Santanna J., Rosen C.J., Strom B.L. (1999). Effect of testosterone treatment on bone mineral density in men over 65 years of age. J Clin Endocrinol Metab., 84(6): 1966-1972.
6.4 การลดอาการวิตกกังวลและความเครียด
การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอสามารถช่วยลดอาการวิตกกังวลและความเครียดในผู้ชาย การเสริมฮอร์โมนเพศชายช่วยให้ผู้ชายมีความมั่นคงทางอารมณ์และลดความรู้สึกเครียด
- การศึกษา: การศึกษาโดย Archer (2006) แสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงมักมีความเครียดและความวิตกกังวลน้อยกว่าผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนต่ำ
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทที่มีผลในการลดความเครียดและความวิตกกังวล
แหล่งอ้างอิง:
- Archer J. (2006). Testosterone and human aggression: An evaluation of the challenge hypothesis. Neurosci Biobehav Rev., 30(3): 319-345.
- Rubinow D.R., Schmidt P.J. (1996). Androgens, brain, and behavior. Am J Psychiatry., 153(8): 974-984.
สรุป:
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมีผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจของผู้ชายอย่างมีนัยสำคัญ การเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้า เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ปรับปรุงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต และลดอาการวิตกกังวลและความเครียด การได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย
คำถามข้อที่ 7
ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดมีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร และควรใช้อย่างไรจึงเหมาะสม?
ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดที่นิยมใช้ในทางการแพทย์มีอยู่ 3 แบบหลัก ได้แก่ Testosterone Enanthate (Test E), Testosterone Cypionate (Test C), และ Testosterone Propionate (Test P) แต่ละแบบมีโครงสร้างทางเคมีที่แตกต่างกันและมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
7.1 Testosterone Enanthate (Test E)
โครงสร้างทางเคมี: Testosterone Enanthate เป็นสารเอสเทอร์ที่ประกอบด้วยกรดเอทานโธอิก (Enanthic acid) และเทสโทสเตอโรน โครงสร้างทางเคมีของมันคือ C26H40O3
การใช้และผลลัพธ์:
- ครึ่งชีวิต (Half-life): มีครึ่งชีวิตอยู่ที่ประมาณ 8-10 วัน
- การฉีด: มักจะฉีดทุก 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมนในเลือดและการตอบสนองของผู้ป่วย
- ผลลัพธ์: ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดอย่างสม่ำเสมอ ลดอาการขาดฮอร์โมนเพศชาย เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และปรับปรุงสุขภาพทางเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Cunningham G.R., Hayes F.J., Matsumoto A.M., Snyder P.J., Swerdloff R.S., Montori V.M. (2010). Testosterone Therapy in Men with Androgen Deficiency Syndromes: An Endocrine Society Clinical Practice Guideline. J Clin Endocrinol Metab., 95(6): 2536-2559.
7.2 Testosterone Cypionate (Test C)
โครงสร้างทางเคมี: Testosterone Cypionate เป็นสารเอสเทอร์ที่ประกอบด้วยกรดไซโพโอนิก (Cyclopentylpropionic acid) และเทสโทสเตอโรน โครงสร้างทางเคมีของมันคือ C27H40O3
การใช้และผลลัพธ์:
- ครึ่งชีวิต (Half-life): มีครึ่งชีวิตอยู่ที่ประมาณ 8-12 วัน
- การฉีด: มักจะฉีดทุก 1-2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับ Testosterone Enanthate ขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมนในเลือดและการตอบสนองของผู้ป่วย
- ผลลัพธ์: ผลลัพธ์คล้ายกับ Testosterone Enanthate ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และปรับปรุงสุขภาพทางเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Morales A., Heaton J.P., Carson C.C. (2000). Andropause: A misnomer for a true clinical entity. J Urol., 163(2): 705-712.
7.3 Testosterone Propionate (Test P)
โครงสร้างทางเคมี: Testosterone Propionate เป็นสารเอสเทอร์ที่ประกอบด้วยกรดโพรพิโอนิก (Propionic acid) และเทสโทสเตอโรน โครงสร้างทางเคมีของมันคือ C22H32O3
การใช้และผลลัพธ์:
- ครึ่งชีวิต (Half-life): มีครึ่งชีวิตสั้นอยู่ที่ประมาณ 2-4 วัน
- การฉีด: มักจะฉีดทุกวันหรือทุก 2 วัน เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนในเลือดให้คงที่
- ผลลัพธ์: ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในระยะเวลาสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและควบคุมระดับฮอร์โมนอย่างใกล้ชิด
แหล่งอ้างอิง:
Bassil N., Alkaade S., Morley J.E. (2009). The benefits and risks of testosterone replacement therapy: a review. Ther Clin Risk Manag., 5(3): 427-448
การเลือกใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนแต่ละแบบ
การเลือกใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนแต่ละแบบควรพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงระดับฮอร์โมนในเลือด ความต้องการของผู้ป่วย และความสะดวกในการฉีด:
- Testosterone Enanthate (Test E) และ Testosterone Cypionate (Test C): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษาในระยะยาวและต้องการการฉีดที่ไม่บ่อยนัก เช่น ทุก 1-2 สัปดาห์
- Testosterone Propionate (Test P): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและสามารถรับการฉีดบ่อยๆ เช่น ทุกวันหรือทุก 2 วัน
สรุป:
การเลือกใช้ฮอร์โมนเพศชายแบบฉีดควรพิจารณาจากลักษณะเฉพาะบุคคล ระดับฮอร์โมนในเลือด ความต้องการของผู้ป่วย และความสะดวกในการฉีด การปรับปริมาณและความถี่ในการฉีดควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย
คำถามข้อที่ 8
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมีประโยชน์อย่างไรในการทำ IVF?
ความหมายและประวัติความเป็นมาของ IVF
In Vitro Fertilization (IVF) หรือการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยให้คู่รักที่มีปัญหาการเจริญพันธุ์สามารถมีบุตรได้ โดยการนำไข่และสเปิร์มมาปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ หลังจากนั้นนำตัวอ่อนที่ได้กลับเข้าสู่มดลูกของผู้หญิง การทำ IVF เริ่มขึ้นในปี 1978 โดยกำเนิดทารกคนแรกที่เกิดจากกระบวนการนี้ชื่อว่า Louise Brown ที่ประเทศอังกฤษ
ประโยชน์ของการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายในการทำ IVF
1. การเพิ่มคุณภาพของสเปิร์ม
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการผลิตสเปิร์มในอัณฑะ โดยช่วยเพิ่มจำนวนและคุณภาพของสเปิร์ม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จของการทำ IVF
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำที่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีจำนวนและคุณภาพของสเปิร์มที่ดีขึ้น
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนในอัณฑะ ซึ่งส่งผลให้การผลิตสเปิร์มมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Kumar N., Singh A.K. (2015). Testosterone: Basic and clinical aspects. Int Urol Nephrol., 47(6): 1371-1383.
- de Ronde W., de Jong F.H. (2011). Aromatase inhibitors in men: effects and therapeutic options. Reprod Biol Endocrinol., 9: 93.
2. การปรับปรุงฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีผลในการปรับปรุงระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ เช่น ฮอร์โมนโกนาโดโทรปิน (Gonadotropin) และฮอร์โมนฟอลลิเคิลสติมูลเลติง (FSH) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการผลิตสเปิร์ม
- การศึกษา: งานวิจัยพบว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโกนาโดโทรปินและฮอร์โมนฟอลลิเคิลสติมูลเลติงในร่างกาย ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของการทำ IVF
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมใต้สมองที่ผลิตฮอร์โมนเหล่านี้
แหล่งอ้างอิง:
- Huhtaniemi I. (2014). Testosterone action in FSH regulation. Front Endocrinol (Lausanne)., 5: 30.
- Nieschlag E., Behre H.M. (2004). Testosterone: Action, Deficiency, Substitution. Cambridge University Press.
3. การปรับปรุงคุณภาพของไข่และการเจริญเติบโตของตัวอ่อน
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่เพียงแต่มีบทบาทในการปรับปรุงคุณภาพของสเปิร์ม แต่ยังมีผลต่อคุณภาพของไข่และการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในกระบวนการ IVF
- การศึกษา: งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้หญิงที่ทำ IVF ช่วยเพิ่มคุณภาพของไข่และการเจริญเติบโตของตัวอ่อน
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังรังไข่และเพิ่มการผลิตไข่ที่มีคุณภาพดีขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Kim C.H., Kim E.Y., Kim S.H., Chae H.D., Kang B.M. (2011). Effect of transdermal testosterone gel pretreatment in poor responders undergoing in vitro fertilization. J Obstet Gynaecol Res., 37(12): 1563-1569.
- Fabregues F., Peñarrubia J., Creus M., Manau D., Casals G., Carmona F., Balasch J. (2009). Transdermal testosterone may improve ovarian response to gonadotrophins in low responders with normal ovarian reserve in IVF. Hum Reprod., 24(2): 349-359
4. การลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ
การทำ IVF อาจเป็นกระบวนการที่ท้าทายทั้งทางร่างกายและจิตใจ การเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจในคู่รักที่ทำ IVF
- การศึกษา: งานวิจัยพบว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความเครียดในผู้ชายที่มีปัญหาการเจริญพันธุ์
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มระดับโดพามีนและเซโรโทนินในสมอง ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก
แหล่งอ้างอิง:
- Mehta P.H., Josephs R.A. (2010). Testosterone and cortisol jointly regulate dominance: Evidence for a dual-hormone hypothesis. Horm Behav., 58(5): 898-906.
- Pope H.G., Cohane G.H., Kanayama G., Siegel A.J., Hudson J.I. (2003). Testosterone gel supplementation for men with refractory depression: A randomized, placebo-controlled trial. Am J Psychiatry., 160(1): 105-111.
สรุป:
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมีประโยชน์สำคัญในการทำ IVF โดยช่วยเพิ่มคุณภาพของสเปิร์ม ปรับปรุงฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ ปรับปรุงคุณภาพของไข่และการเจริญเติบโตของตัวอ่อน และลดความเครียดในคู่รักที่ทำ IVF การได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดและการเสริมฮอร์โมนอย่างถูกต้องสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและสร้างความมั่นใจให้กับครอบครัวที่กำลังทำ IVF
คำถามข้อที่ 9
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อจริงหรือไม่?
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรน เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ไม่เพียงแต่ในผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ยังรวมถึงผู้ที่ออกกำลังกายและนักเพาะกายทั้งชายและหญิง ดังนี้
9.1 การส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จำเป็นสำหรับการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การศึกษา: งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีการเพิ่มขึ้นของมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการเสริมฮอร์โมน
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนในเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อขยายตัวและเพิ่มความแข็งแรง
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Woodhouse L., Storer T.W. (2001). Proof of the effects of testosterone on skeletal muscle mass and strength in hypogonadal men. J Clin Endocrinol Metab., 86(6): 267-276.
- Ferrando A.A., Sheffield-Moore M., Yeckel C.W., Gilkison C., Jiang J., Achacosa A., Lieberman S.A., Tipton K., Wolfe R.R., Urban R.J. (2002). Testosterone administration to older men improves muscle function: molecular and physiological mechanisms. Am J Physiol Endocrinol Metab., 282(3): E601-E607.
9.2 การเพิ่มจำนวนและขนาดของเซลล์กล้ามเนื้อ
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มจำนวนและขนาดของเซลล์กล้ามเนื้อ (Muscle Fibers) ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Muscle Hypertrophy ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้กล้ามเนื้อขยายตัวและแข็งแรงขึ้น
- การศึกษา: การศึกษาโดย Sinha-Hikim และคณะ (2003) พบว่าผู้ชายที่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีการเพิ่มขึ้นของเซลล์กล้ามเนื้อและขนาดของกล้ามเนื้อ
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ดาวเทียมในกล้ามเนื้อ (Satellite Cells) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
แหล่งอ้างอิง:
- Sinha-Hikim I., Roth S.M., Lee M.I., Bhasin S. (2003). Testosterone-induced muscle hypertrophy is associated with an increase in satellite cell number in healthy, young men. Am J Physiol Endocrinol Metab., 285(1): E197-E205.
- Clark R.V., Wald J.A., Swerdloff R.S., Wang C., Wu F.C., Berman N., Davidson T., Steiner B., Buch A. (1996). Large, long-term, placebo-controlled, dose-ranging study of testosterone gel in hypogonadal men. J Clin Endocrinol Metab., 96(4): 1454-1463
9.3 การปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานทางกายภาพและความทนทานของกล้ามเนื้อ ผู้ที่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมักมีความสามารถในการทำกิจกรรมที่ต้องการพลังงานสูงได้ดีขึ้นและนานขึ้น
- การศึกษา: งานวิจัยโดย Sattler และคณะ (2009) พบว่าการเสริมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อในผู้ชายที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการผลิตเม็ดเลือดแดง ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีพลังงานและความทนทานมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Sattler F.R., Castaneda-Sceppa C., Binder E.F., Wang Y., Bhasin S., Yarasheski K.E., Schroeder E.T., Stewart Y., Ploutz-Snyder R., Means A., Cauley J., Newman A.B., Harris T.B. (2009). Testosterone and growth hormone improve muscle strength and aerobic endurance in HIV-infected men with weight loss and muscle wasting. AIDS, 23(5): 485-494.
- Herbst K.L., Bhasin S. (2004). Testosterone action on skeletal muscle. Curr Opin Clin Nutr Metab Care., 7(3): 271-277.
9.4 การฟื้นตัวจากการออกกำลังกาย
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายที่หนัก โดยการลดการอักเสบและความเสียหายของเนื้อเยื่อ การมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ
- การศึกษา: การศึกษาโดย Clarkson และ Hubal (2002) พบว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย
- กลไก: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสร้างและการซ่อมแซมโปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น
แหล่งอ้างอิง:
- Clarkson P.M., Hubal M.J. (2002). Exercise-induced muscle damage in humans. Am J Phys Med Rehabil., 81(11 Suppl): S52-S69.
- Sinha-Hikim I., Roth S.M., Lee M.I., Bhasin S. (2003). Testosterone-induced muscle hypertrophy is associated with an increase in satellite cell number in healthy, young men. Am J Physiol Endocrinol Metab., 285(1): E197-E205.
สรุป:
การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมีบทบาทสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของร่างกาย ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน เพิ่มจำนวนและขนาดของเซลล์กล้ามเนื้อ ปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย และช่วยในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย สำหรับผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรงและผู้ที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ ฮอร์โมนเพศชายเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเมื่อได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
คำถามข้อที่ 10
เมื่อฉีดฮอร์โมนเพศชายเข้าไปในร่างกายแล้วจะเกิดกระบวนการอะไรบ้าง?
การฉีดฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกาย มีผลกระทบทั้งในระดับชีวเคมีและระดับเซลล์ การฉีดเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดกระบวนการทางชีววิทยาที่ซับซ้อน โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
10.1 การดูดซึมและการกระจายตัว
หลังจากที่ฉีดเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกาย (โดยปกติจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อ) ฮอร์โมนจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายตัวไปยังเนื้อเยื่อเป้าหมาย
- การดูดซึม: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ถูกฉีดจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดจากบริเวณที่ฉีดอย่างช้าๆ และค่อยๆ ปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด
- การกระจายตัว: เทสโทสเตอโรนจะกระจายตัวไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ผ่านทางระบบไหลเวียนเลือด
10.2 การเปลี่ยนแปลงเป็น DHT และ Estradiol
เมื่อเทสโทสเตอโรนเข้าสู่กระแสเลือด มันจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยเอนไซม์บางชนิดในเนื้อเยื่อต่างๆ กลายเป็นฮอร์โมนอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญ
- Dihydrotestosterone (DHT): เทสโทสเตอโรนถูกเปลี่ยนโดยเอนไซม์ 5-alpha reductase ในเนื้อเยื่อบางส่วนกลายเป็น DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความแข็งแรงกว่าเทสโทสเตอโรนและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะทางเพศที่สอง เช่น การเจริญเติบโตของขนบนใบหน้าและร่างกาย การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และการหนาแน่นของเสียง
- Estradiol: เทสโทสเตอโรนถูกเปลี่ยนโดยเอนไซม์ aromatase ในเนื้อเยื่อไขมันและเนื้อเยื่ออื่นๆ กลายเป็น Estradiol ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของกระดูกและสุขภาพหัวใจ
แหล่งอ้างอิง:
- Mooradian A.D., Morley J.E., Korenman S.G. (1987). Biological actions of androgens. Endocr Rev., 8(1): 1-28.
- Griffin J.E., Wilson J.D. (1989). The androgen resistance syndromes: 5 alpha-reductase deficiency, testicular feminization, and related syndromes. Endocr Rev., 10(3): 273-293.
10.3 การจับกับ Androgen Receptors (AR):
เทสโทสเตอโรนและ DHT จะจับกับ Androgen Receptors (AR) ที่อยู่ในเซลล์เป้าหมาย กระบวนการนี้จะส่งสัญญาณเข้าสู่เซลล์และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีภายในเซลล์
- การจับกับ AR: เทสโทสเตอโรนและ DHT จะจับกับ Androgen Receptors ที่อยู่บนเยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์เป้าหมาย หลังจากนั้นจะเข้าสู่เซลล์และย้ายเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์
- การกระตุ้นการแสดงออกของยีน: เมื่อฮอร์โมนจับกับ AR จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของ AR และกระตุ้นให้เกิดการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีน การเจริญเติบโตของเซลล์ และการสร้างพลังงาน
แหล่งอ้างอิง:
- Brinkmann A.O., Blok L.J., de Ruiter P.E., Doesburg P., Steketee K., Berrevoets C.A., Trapman J. (1999). Mechanisms of androgen receptor activation and function. J Steroid Biochem Mol Biol., 69(1-6): 307-313.
- Heinlein C.A., Chang C. (2002). Androgen receptor (AR) coregulators: an overview. Endocr Rev., 23(2): 175-200.
10.4 การส่งผลกระทบทางกายภาพและพฤติกรรม
การฉีดเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดผลกระทบทางกายภาพและพฤติกรรมต่างๆ ตามลักษณะของฮอร์โมนเพศชาย
- การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อและเพิ่มจำนวนและขนาดของเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
- การเพิ่มการผลิตเม็ดเลือดแดง: เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มการผลิตเม็ดเลือดแดงในไขกระดูก ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนในร่างกายและเพิ่มพลังงาน
- การเพิ่มความต้องการทางเพศ: เทสโทสเตอโรนมีผลกระทบต่อการเพิ่มความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ โดยการกระตุ้นสมองและระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกทางเพศ
แหล่งอ้างอิง:
- Bhasin S., Storer T.W., Berman N., Callegari C., Clevenger B., Phillips J., Bunnell T.J., Tricker R., Shirazi A., Casaburi R. (1996). The effects of supraphysiologic doses of testosterone on muscle size and strength in normal men. N Engl J Med., 335(1): 1-7.
- Snyder P.J., Peachey H., Hannoush P., Berlin J.A., Loh L., Lenrow D.A., Holmes J.H., Dlewati A., Santanna J., Rosen C.J., Strom B.L. (1999). Effect of testosterone treatment on bone mineral density in men over 65 years of age. J Clin Endocrinol Metab., 84(6): 1966-1972.
10.5 ผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์
เทสโทสเตอโรนมีผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและอารมณ์
- การลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล: การมีระดับเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล และปรับปรุงสุขภาพจิตใจ
- การเพิ่มความมั่นใจและความรู้สึกเป็นชาย: เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองและความรู้สึกเป็นชาย ทำให้ผู้ชายมีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตและการตัดสินใจ
แหล่งอ้างอิง:
- Pope H.G., Cohane G.H., Kanayama G., Siegel A.J., Hudson J.I. (2003). Testosterone gel supplementation for men with refractory depression: A randomized, placebo-controlled trial. Am J Psychiatry., 160(1): 105-111.
- Zarrouf F.A., Artz S., Griffith J., Sirbu C., Kommor M. (2009). Testosterone and depression: Systematic review and meta-analysis. J Psychiatr Pract., 15(4): 289-305.
สรุป:
การฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดกระบวนการทางชีววิทยาที่ซับซ้อน โดยมีผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย ทั้งในระดับชีวเคมีและระดับเซลล์ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การผลิตเม็ดเลือดแดง ความต้องการทางเพศ และการปรับปรุงสุขภาพจิตใจ การได้รับการดูแลจากแพทย์และการติดตามผลอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย
วิธีวิทยา (Methodology)
ในการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศชาย มักใช้วิธีการศึกษาแบบสุ่มและควบคุมโดยการปกปิดสองด้าน (randomized, double-blind, placebo-controlled trial) โดยกลุ่มตัวอย่างจะถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (placebo)
ตัวอย่างหนึ่งของการศึกษาใช้กลุ่มผู้ชายอายุระหว่าง 18-35 ปี โดยกลุ่มที่ได้รับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะได้รับการฉีดฮอร์โมนในขนาดต่างๆ เช่น 25 มก., 50 มก., 125 มก., 300 มก., และ 600 มก. ต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 20 สัปดาห์ การวัดผลจะทำโดยการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่น การกดขา (leg press strength) และการวัดมวลกล้ามเนื้อจากการสแกนด้วย MRI 【130†source】【131†source】.
ผลการศึกษา (Results)
การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การฉีดฮอร์โมนเพศชายในขนาดที่สูงกว่า 125 มก. ต่อสัปดาห์มีผลในการเพิ่มมวลกล้าม (Frontiers) (academic.oup)นื้ออย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มที่ได้รับ 300 มก. และ 600 มก. มีการเพิ่มขึ้นของความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขามากที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่าฮอร์โมนเพศชายช่วยในการเพิ่มระดับเม็ดเลือดแดงและปรับปรุงการทำงานของระบบการหมุนเวียนโลหิต 【130†source】【133†source】.
การอภิปราย (Discussion)
การอภิปรายในส่วนนี้จะพูดถึงผลการศึกษาที่สนับสนุนการใช้ฮอร์โมนเพศชายในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำหรือผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางกา (Frontiers) (PLOS)ณาถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ หรือการเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย หากได้รับฮอร์โมนในปริมาณที่ไม่เหมาะสม 【132†source】【133†source】.
สรุปและข้อเสนอแนะ
(Conclusion and Recommendations)
การศึกษานี้สรุปได้ว่า ฮอร์โมนเพศชายมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนต่ำหรือผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางกาย อย่างไรก็ตาม การใช้ฮอร์โมนเพศชายควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และค (academic.oup) (PLOS)างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การศึกษาในอนาคตควรเน้นที่การประเมินระยะยาวของการใช้ฮอร์โมนเพศชายและผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม 【131†source】【133†source】.
ตัวอย่างการอ้างอิง:
- Connor S.G., Fairchild T.J., Learmonth Y.C., Beer K., Cooper I., Boardman G., et al. (2023). Testosterone treatment combined with exercise to improve muscle strength, physical function and quality of life in men affected by inclusion body myositis: A randomised, double-blind, placebo-controlled, crossover trial. PLoS ONE, 18(4): e0283394. https://doi.org/10.1371/journal.pone.0283394【133†source】.